สุขภาพเป็นเรื่องที่สำคัญค่ะ โดยเฉพาะสุขภาพในส่วนของอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิง นับเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก จะต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษเลยทีเดียว หนึ่งในปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับช่องคลอดได้ก็คือเรื่องของเชื้อราค่ะ สาวๆ ทุกคนมีโอกาสที่จะเป็นได้ แม้จะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ก็เป็นเรื่องเล็กๆ ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะส่งผลถึงสุขภาพและอนามัยแล้ว ยังส่งผลต่อบุคลิกภาพด้วย เพราะเชื้อรามักก่อให้เกิดอาการคัน ดังนั้นป้องกันไว้ก่อนเป็นดีที่สุดค่ะ Kaijeaw.com จึงมีวิธีการป้องกันเชื้อราในช่องคลอดมาฝากสาวๆ ค่ะ
สภาวะติดเชื้อราในช่องคลอด หมายถึงภาวะที่เชื้อราที่มีชื่อว่า แคดิดา แอลบิแคนส์ (Candida Albicans) เติบโตมากจนผิดปกติ ทำให้เกิดมีอาการคันและตกขาวบริเวณช่องคลอด หรือปากช่องคลอดได้ ซึ่งสภาวะใดก็ตามที่เปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมภายในช่องคลอด มักเป็นสาเหตุให้เชื้อเพิ่มจำนวนมากขึ้น
สังเกตอาการ
: อาการเริ่มแรก ตกขาวจะมีสีขาวหรือเหลืองเป็นก้อนคล้ายนมบูด มีกลิ่นที่ผิดปกติ โดยช่องคลอด จะเกิดการระคายเคือง จนทำให้คันมากจนแทบทนไม่ได้หากเกามากๆ ก็จะเกิดการอักเสบต่อไปได้
: อาการรุนแรงมาก จะคันมาถึงบริเวณขาหนีบและมีอาการแสบ แดง และระคายเคืองอย่างรุนแรงได้ บางคนอาจจะรู้สึก แสบในช่องคลอดเวลาถ่ายปัสสาวะ ซึ่งเมื่อมีอาการเช่นนี้ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อการรักษาต่อไปค่ะ
: อาการเริ่มแรก ตกขาวจะมีสีขาวหรือเหลืองเป็นก้อนคล้ายนมบูด มีกลิ่นที่ผิดปกติ โดยช่องคลอด จะเกิดการระคายเคือง จนทำให้คันมากจนแทบทนไม่ได้หากเกามากๆ ก็จะเกิดการอักเสบต่อไปได้
: อาการรุนแรงมาก จะคันมาถึงบริเวณขาหนีบและมีอาการแสบ แดง และระคายเคืองอย่างรุนแรงได้ บางคนอาจจะรู้สึก แสบในช่องคลอดเวลาถ่ายปัสสาวะ ซึ่งเมื่อมีอาการเช่นนี้ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อการรักษาต่อไปค่ะ
วิธีป้องกันเชื้อราในช่องคลอด
1. ดูแลรักษาความสะอาดของชุดชั้นในให้แห้งสะอาดอยู่เสมอ กางเกงในที่ไม่สะอาดหรือตากในที่อับแบบไม่โดนแสงแดด
2. เลือกสวมใส่กางเกงในที่ระบายอากาศได้ดี ไม่ให้อับชื้น หรือชุ่มเหงื่อ ไม่ใส่ชุดชั้นในที่รัดแน่นจนเกินไป และควรตรวจตราคอยเคลียร์ชั้นในตัวเก่าที่ซุกอยู่ก้นตู้เพราะอาจมีสปอร์ติดอยู่ด้วย
3. กินโยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์ เพื่อเพิ่มจำนวนแลคโตบาซิลลัสในช่องคลอด มีประโยชน์สามารถช่วยลดอัตราการเป็นเชื้อราในช่องคลอดได้
4. ลดการกินของหวาน เพราะของหวานๆ เพิ่มปริมาณน้ำตาลในเซลล์ต่างๆ เยอะขึ้น ซึ่งพบว่าเป็นอาหารโปรดของเชื้อรา ทำให้เจริญเติบโตได้ดี คนไข้ที่เป็นเชื้อราในช่องคลอดบ่อยๆ คุณหมอก็จะให้หลีกเลี่ยงน้ำตาลและของหวาน
5. หลีกเลี่ยงอาหารที่แพ้ ภาวะแพ้อาหารทำให้อาการของโรคแย่ลง
6. ไม่เครียด ควรรู้จักผ่อนคลายทำใจให้สบายๆ เพราะความเครียดเป็นสาเหตุให้โรคกำเริบได้
7. นอกจากกางเกงในที่ควรใส่ใจแล้ว เสื้อผ้าก็สำคัญเช่นกัน ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าสบาย โปร่งๆ ไม่รัดแน่น โดยเฉพาะกางเกงยีนเอวต่ำที่แน่นๆ ฟิตๆ ควรหลีกเลี่ยง
8. การทำความสะอาด ควรใช้แต่เพียงน้ำสะอาดหรือสบู่ สำหรับผู้ที่ชอบใช้น้ำยาเพื่อทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น ถ้าใช้นานก็อาจทำให้ความเป็นกรดด่างในช่องคลอดเปลี่ยนแปลง เป็นสาเหตุทำให้มีเชื้อราขึ้นได้ และบางคนอาจแพ้สารเคมีในน้ำยาอีกด้วย
9. หมั่นรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อร่างกายจะได้มีภูมิต้านทานต่อต้านเชื้อโรค ซึ่งภาวะร่างกายที่อ่อนแอนั้น ทำให้ภูมิต้านทานต่ำ
1. ดูแลรักษาความสะอาดของชุดชั้นในให้แห้งสะอาดอยู่เสมอ กางเกงในที่ไม่สะอาดหรือตากในที่อับแบบไม่โดนแสงแดด
2. เลือกสวมใส่กางเกงในที่ระบายอากาศได้ดี ไม่ให้อับชื้น หรือชุ่มเหงื่อ ไม่ใส่ชุดชั้นในที่รัดแน่นจนเกินไป และควรตรวจตราคอยเคลียร์ชั้นในตัวเก่าที่ซุกอยู่ก้นตู้เพราะอาจมีสปอร์ติดอยู่ด้วย
3. กินโยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์ เพื่อเพิ่มจำนวนแลคโตบาซิลลัสในช่องคลอด มีประโยชน์สามารถช่วยลดอัตราการเป็นเชื้อราในช่องคลอดได้
4. ลดการกินของหวาน เพราะของหวานๆ เพิ่มปริมาณน้ำตาลในเซลล์ต่างๆ เยอะขึ้น ซึ่งพบว่าเป็นอาหารโปรดของเชื้อรา ทำให้เจริญเติบโตได้ดี คนไข้ที่เป็นเชื้อราในช่องคลอดบ่อยๆ คุณหมอก็จะให้หลีกเลี่ยงน้ำตาลและของหวาน
5. หลีกเลี่ยงอาหารที่แพ้ ภาวะแพ้อาหารทำให้อาการของโรคแย่ลง
6. ไม่เครียด ควรรู้จักผ่อนคลายทำใจให้สบายๆ เพราะความเครียดเป็นสาเหตุให้โรคกำเริบได้
7. นอกจากกางเกงในที่ควรใส่ใจแล้ว เสื้อผ้าก็สำคัญเช่นกัน ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าสบาย โปร่งๆ ไม่รัดแน่น โดยเฉพาะกางเกงยีนเอวต่ำที่แน่นๆ ฟิตๆ ควรหลีกเลี่ยง
8. การทำความสะอาด ควรใช้แต่เพียงน้ำสะอาดหรือสบู่ สำหรับผู้ที่ชอบใช้น้ำยาเพื่อทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น ถ้าใช้นานก็อาจทำให้ความเป็นกรดด่างในช่องคลอดเปลี่ยนแปลง เป็นสาเหตุทำให้มีเชื้อราขึ้นได้ และบางคนอาจแพ้สารเคมีในน้ำยาอีกด้วย
9. หมั่นรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อร่างกายจะได้มีภูมิต้านทานต่อต้านเชื้อโรค ซึ่งภาวะร่างกายที่อ่อนแอนั้น ทำให้ภูมิต้านทานต่ำ
10. ระวังการกินยา สำหรับคนที่กินยาแก้อักเสบ กินยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน หรือได้รับยาประเภทกดภูมิคุ้มกัน เช่นโรคเลือดหรือการทำเคมีบำบัดนั้น จะส่งผลให้แบคทีเรียในช่องคลอดลดลง ทำให้ความสมดุลกรดด่างในช่องคลอดเปลี่ยนไป เชื้อราก็จะเจริญเติบโตขึ้น ส่งผลให้มีโอกาสเสี่ยงในการเกิดเชื้อราในช่องคลอดได้ง่าย หากจำเป็นที่จะต้องได้รับยาเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
11. เลือกรับประทานผักและผลไม้ให้มาก เพื่อที่จะได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ ทั้งยังส่งเสริมให้สาวๆ มีผิวสวยอย่างสุขภาพดีได้ด้วย
ข้อควรระวัง
หากคุณเป็นซ้ำเกินปีละ 4 ครั้ง ถือว่าเป็นอาการเรื้อรัง อาจต้องรักษายาวด้วยการให้ยาถึง 6 อาทิตย์ ซึ่งอาการเรื้อรังเช่นนี้ อาจเป็นอาการแอบแฝงของโรคอื่น เช่น เบาหวาน ได้ อย่าลืมไปพบสูตินรีแพทย์นะคะ
หากคุณเป็นซ้ำเกินปีละ 4 ครั้ง ถือว่าเป็นอาการเรื้อรัง อาจต้องรักษายาวด้วยการให้ยาถึง 6 อาทิตย์ ซึ่งอาการเรื้อรังเช่นนี้ อาจเป็นอาการแอบแฝงของโรคอื่น เช่น เบาหวาน ได้ อย่าลืมไปพบสูตินรีแพทย์นะคะ
สาวๆ ไม่อยากเป็นเชื้อราในช่องคลอด ควรหมั่นดูแลสุขภาพและอนามัยของตนเองอยู่เสมอนะคะ เพื่อให้ตัวเราปลอดจากเจ้าเชื้อราตัวร้าย ไม่ใช่เรื่องยากนะคะสาวๆ นอกจากเพื่อสุขภาพที่ดีแล้ว ยังเสริมสร้างความมั่นใจให้กับเราได้ในทุกๆ วันด้วยค่ะ
cr : Kaijeaw.com
****************************************ปลาย******************************* เรียนทั้งหมดของผู้เข้าชมที่รัก! ผมขอบคุณมากสำหรับการเยี่ยมชมบล็อกของฉัน! ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อหาเนื้อหาที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดสำหรับทุกท่าน! กรุณามีความโชคดี! จาก Kabouyluke!!! :)
EmoticonEmoticon